Yes Or No อยากรักก็รักเลย
พายมีปัญหากับเพื่อนร่วมห้องในหอพักจึงต้องย้ายมาอยู่ห้องเดียวกับคิม แรกทีเดียวนั้นพายรังเกียจที่คิมมีพฤติกรรมคล้ายทอม ทั้งหน้าตาและอากัปกิริยาคล้ายผู้ชาย จึงลากเทปสีแดงกั้นเขตในห้อง ห้ามมิให้คิมล่วงล้ำข้ามไปถึงตัวพาย คิมปฏิเสธว่าตนเองมิใช่ทอมและถามว่าทอมคืออะไร คิมบอกพายว่ายังไม่เคยชอบใครไม่ว่าหญิงหรือชาย และพูดต่อไปว่าถ้าเราชอบใครสักคน ชอบที่จะอยู่กับเขา ชอบที่จะเล่นกับเขา แต่เขาดันเป็นผู้หญิง เราก็กลายเป็นทอมเลยใช่หรือเปล่า แล้วความเป็นเราจะเปลี่ยนไปไหม เราก็ยังเป็นคนเดิม แต่จะมีใครมองเห็นบ้างไหมนอกจากจะตราหน้าว่าเราเป็นทอม คิมผูกมิตรกับพายด้วยการทำอาหารในหม้อหุงข้าวแล้วชวนให้พายทาน โดยยื่นข้ามเส้นแดงไปให้ ทั้งสองจึงรู้จักกันมากขึ้น คิมเป็นคนชอบปลูกต้นไม้ ทำกับข้าว ส่วนพายชอบเลี้ยงปลา คิมได้โอกาสจึงถามพายว่าทำไมเลี้ยงปลาตัวเดียว พายจึงอธิบายให้ฟังว่าปลาดุต้องเลี้ยงตัวเดียว คิมจึงถือโอกาสแซวว่าเหมือนเจ้าของ และถามต่อว่ามีปลาที่เป็นทอมหรือปลาที่ไม่ชอบทอมบ้างไหม พายตอบได้เพียงว่ามีปลาที่รักเพศเดียวกัน แต่พายงอนไปเมื่อรู้ว่าคำถามถึงปลาที่ไม่ชอบทอมเป็นการกระทบตนอีก คิมต้องตามหาร้านน้าอินเพราะพ่อฝากไวน์มาส่ง คิมหาร้านไม่พบจนในที่สุดพายต้องพาไปโดยถือเป็นการตอบแทนอาหารของคิม ตั้งแต่นั้นมาคิมก็ไปมาหาสู่ที่ร้านน้าอิน ทั้งไปทานขนม เล่นดนตรี และได้น้าอินเป็นที่พึ่งพิงทางจิตใจ ฝนตกน้ำเข้าห้องพักของทั้งคู่ เตียงของพายเปียก คิมจึงข้ามเส้นแดงเข้าช่วยเหลือ และเสนอให้พายนอนเตียงคิม ส่วนคิมนอนพื้นได้เพราะคิมเป็นลูกชาวสวน จากนั้นฟ้าคะนองจนไฟฟ้าดับคิมจึงเข้าไปกอดพาย ทั้งสองจุดเทียนเล่นเงาเป็นรูปนกอยู่ในห้อง ความสัมพันธ์จึงพัฒนาขึ้นเป็นลำดับโดยไม่ถูกกีดกันโดยเส้นแดงแบ่งเขตอีกต่อไป ทั้งสองเรียนรู้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายชอบและไม่ชอบและเลื่อนเตียงมาติดกัน คนอื่นเริ่มสังเกตเห็นถึงความสัมพันธ์และล้อเลียน จนวันหนึ่งพายหอมแก้มคิมประชดรุ่นพี่ที่พูดถากถางว่าเวลาจูบกันไม่ขนลุกบ้างหรือ คิมสีหน้าเคร่งเครียดไม่ตอบสนอง พายมีพี่แวนซึ่งเป็นญาติห่างๆ มาคอยดูแล ส่วนคิมก็มีเจนซึ่งเป็นผู้หญิงมาชอบ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองไม่ราบรื่น เพราะต่างก็งอนและเข้าใจผิดในฝ่ายตรงข้าม น้าอินเป็นที่ปรึกษาให้คิมและให้กำลังใจในการตัดสินใจ โดยสอนว่า อย่าให้ลักษณะท่าทางมากำหนดเรา เอาที่ใจเราเป็น ดูให้ดีจะได้ไม่ต้องเสียใจทีหลัง คิมตัดสินใจบอกรักพายขณะที่รับอมยิ้มที่พายอมแล้วมาอมต่อ คิมพูดว่า "มันมีผีเสื้ออยู่ในท้องเราตั้งนานแล้ว" ซึ่งอ้างถึงคำพูดของพายที่ว่า หากเราชอบใครจะทำให้รู้สึกเหมือนมีผีเสื้ออยู่ในท้อง พี่แวนเปรยกับคิมว่าแม่ของพายไม่ชอบทอมและพายคงไม่ชอบคิม ทั้งไม่ยอมทำอะไรที่ผิดธรรมชาติ จึงทำให้ทั้งคู่กระทบกระทั่งกัน คิมหนีออกไปท่ามกลางสายฝน พายตามตัวคิมกลับมาและเช็ดตัวให้ คืนนั้นทั้งสองคนก็ยอมรับกัน รุ่งขึ้นพายสับสน ใจหนึ่งหึงหวงคิม คิมจึงพูดว่าจะบอกเจนเพื่อไม่ให้เจนมายุ่ง แต่อีกใจหนึ่งพายยังไม่พร้อมที่จะเปิดเผยกับคนอื่น คิมบอกเพียงว่าเขารักพาย ไม่เห็นต้องอาย ไม่เห็นต้องกลัว พายพาแม่ไปที่ห้อง พายต้องซ่อนรูปคู่ของทั้งสอง พอคิมเข้าไปที่ห้องก็โกหกว่าเป็นเพื่อนมายืมหนังสือเพราะเห็นท่าทีของแม่พายที่ไม่ชอบคิมอย่างมาก ถึงขนาดพูดว่า "แม่ขนลุกไปหมดเลย" ช่วงสอบใกล้สิ้นสุด คิมไม่สบายใช้ผ้าปิดตานอนพักอยู่ที่ห้อง เจนสบโอกาสแอบเข้าถึงตัวคิมที่ห้อง พายสอบกลับมาเห็นทั้งสองคนนัวเนียกันจึงเข้าใจผิดและหนีกลับไปร้องไห้ที่บ้าน คิมบุกตามไปที่บ้าน พบแม่พายและขอโทษเรื่องที่โกหกว่าเป็นเพื่อนข้างห้อง คิมขอคบกับพาย แม่พายและพี่แวนจึงรับรู้เรื่องแต่ก็ไม่เห็นชอบ คิมกลับไร่อย่างไร้ความหวังเพราะต่อหน้าแม่ พายไม่กล้ายืนยันความสัมพันธ์ของทั้งคู่ พายตามมาขอคืนดีที่ไร่ พบพ่อคิมซึ่งก็ให้การสนับสนุนเต็มที่และภูมิใจในตัวคิมที่ได้แฟนสวย พายขอโทษคิม พายกลัวแม่ กลัวคนรอบข้าง แต่พายตัดสินใจได้แล้วว่าถ้ากลัวก็ต้องเสียคิมไป พายจึงบอกทุกคน และให้เหตุผลกับแม่ว่าความรักที่พายมีแต่แม่และพี่แวนไม่เหมือนความรักที่พายมีต่อคิม เพราะมันมี "ผีเสื้ออยู่ในท้อง" เหมือนอย่างที่แม่บอก พายจึงอยากให้โอกาสกับความรักนี้ คิมขอบคุณที่กล้ารักกัน ทั้งสองจึงกลับมาคืนดีกัน พ่อคิมเห็นทั้งสองสรวมกอดกันจึงเปรยกับคนงานว่า หลานคนแรกข้าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย คนงานตอบกลับว่า คนนะไม่ใช่ปลากัด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น